เกียร์อัตโนมัติคือระบบส่งกำลังที่มีราคาไม่ถูก รถบางรุ่นมีราคาเกียร์กว่า 30% ของราคารถ พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ รถราคาหนึ่งล้าน เกียร์ลูกหนึ่งก็ปาเข้าไปสามแสนละครับ และไม่ว่าจะโอเวอร์ฮอลหรือเปลี่ยนใหม่ทั้งลูกเมื่อเกียร์เจ๊ง ก็ต้องควักกันแทบจะสิ้นเนื้อประดาตัว การขับแบบไม่บันยะบันยังจะทำให้ลูกชายของคุณสึกหรอเร็วกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นเครื่อง เกียร์ ช่วงล่างและอื่นๆ เกียร์อัตโนมัติ เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในระบบส่งกำลัง ทำหน้าที่รับแรงบิดจากเครื่องยนต์ส่งลงไปยังล้อขับเคลื่อน การขับใช้งานรถเกียร์ออโต้ หรือเกียร์อัตโนมัติ เพื่อยืดอายุการใช้งานของชุดส่งกำลังก็ไม่มีอะไรยาก แค่ดูแลเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะที่สี่หมื่นกิโลเมตร ไม่เร่งออกตัวด้วยความรุนแรง ไม่เปลี่ยนเกียร์เล่นบ่อยครั้ง ไม่ขับแบบลากรอบ การดูแลของเหลวหล่อลื่นในระบบให้สดใหม่อยู่เสมอ ช่วยยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์สำคัญที่มีราคาแพงได้ วิธีการขับรถเพื่อถนอมเกียร์ออโต้ มีรายละเอียดปลีกย่อยง่ายๆ ดังนี้
รถยังไม่ทันหยุดอย่ายัดเกียร์ถอย ไม่งั้นพังเร็วนะจ๊ะ
ก่อนออกตัว การเลื่อนคันเกียร์จาก P ไป D หรือ R มองให้ชัดเจนว่าได้เลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการและถูกต้อง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการเคลื่อนที่โดยไม่ได้ตั้งใจ เหยียบเบรกให้แน่ใจว่ามั่นคงดีแล้ว ค่อยเลื่อนคันเกียร์ เมื่อจะเปลี่ยนจากเกียร์ D ไปยังเกียร์ถอย หรือเกียร์ R ก็ต้องเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่งสนิทดีแล้ว แล้วค่อยเลื่อนคันเกียร์ไปยังตำแหน่งเกียร์ถอยหรือเกียร์ R แล้วค่อยๆ คลายน้ำหนักเท้าขวาจากแป้นเบรกทีละนิด มือใหม่หากไม่ชำนาญ อย่าถอยหลังโดยใช้คันเร่งถ้าไม่ได้ถอยขึ้นทางเนิน เบรกจนรถอยู่กับที่แล้วค่อยเลื่อนคันเกียร์ อย่าใจร้อน เมื่อเดินหน้ามาแล้วจะถอย ต้องเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่งอยู่กับที่ก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนไปเป็นเกียร์ถอย ทำทุกครั้งจะช่วยยืดอายุการใช้งานเฟืองเกียร์ครับ
ขับแบบลากรอบลากเกียร์เอามัน
การลากรอบสูงต่อเนื่องเหมือนรถแข่งนั้นจะทำให้ระบบส่งกำลังสึกหรอเร็วกว่าการขับปกติ ไม่ควรขับแบบคิกดาวน์ หรือจมคันเร่งเพื่อกระตุ้นให้เกียร์เปลี่ยนลงต่ำบ่อยๆ การขับแบบรีบเร่ง ใช้คันเร่งต่อเนื่องเพื่อแซง กดมิดคันเร่งบ่อยครั้งเกียร์จะเปลี่ยนลงต่ำเพื่อไปสู่อัตราทดที่เรียกแรงบิดสำหรับการแซงรถช้า เมื่อขับแบบนั้นบ่อยๆ เกียร์อาจไม่พังทันตาเห็น แต่การขับในลักษณะดังกล่าวต่อเนื่องยาวนาน ก็ทำให้ระบบเกียร์เกิดการสึกหรอ ยิ่งน้ำมันเกียร์ไม่เคยเปลี่ยนด้วยแล้ว พอเกียร์มีอุณหภูมิการทำงานสูงขึ้นก็จะสึกหรอเร็วขึ้นเป็นเงาตามตัว เศษอณูโลหะที่ปะปนอยู่ในน้ำมันเกียร์จะหมุนวนในระบบสร้างความสึกหรอเพิ่มขึ้น หากใช้งานปกติ ขับแบบเรื่อยๆ ค่อยๆ ใช้คันเร่งให้เกียร์เปลี่ยนไปตามรอบเครื่องยนต์ปกติโดยไม่ใช้รอบสูง ไม่เปลี่ยนเกียร์เล่นเพราะมีแป้น Paddle Shift ที่ยั่วยวนให้เล่น หรือใช้รอบเครื่องสูงต่อเนื่องยาวนานบ่อยครั้ง เครื่องกับเกียร์จะอยู่รับใช้ไปนานแสนนาน แถมยังถูกกฎจราจร ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ
เข้าเกียร์ว่างขณะรถกำลังเคลื่อนที่
เอ้า แล้วไปทำแบบนั้นทำไมล่ะครับ? มีหลายคนเข้าใจว่า การเข้าเกียร์ว่างเมื่อวิ่งลงเนิน จะช่วยทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง เนื่องจากการปลดเกียร์ว่างในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว แรงดันน้ำมันเกียร์จะลดน้อยลงเพราะเกียร์ถูกเลื่อนไปยังตำแหน่ง N ชิ้นส่วนของเกียร์ที่ยังคงหมุนอยู่ เพราะรถยังเคลื่อนที่อยู่ แต่มีน้ำมันหล่อลื่นน้อยลงในตำแหน่งเกียร์ว่าง ทำให้เกียร์เกิดการสึกหรออย่างรวดเร็ว ไม่เป็นผลดีในระยะยาวกับการทำงานของเกียร์ ในรถยนต์รุ่นใหม่ราคาแพง จะมีระบบปล่อยคลัตช์เมื่อผู้ขับยกคันเร่ง ทำให้รถไหลต่อเนื่องโดยไม่มีการฉีดจ่ายเชื้อเพลิง หรือเข้าสู่รอบเดินเบาเมื่อยกคันเร่งซึ่งช่วยให้ประหยัดน้ำมัน แต่ระบบดังกล่าว มีการเสริมการทำงานของปั๊มแรงดันน้ำมันหล่อลื่นในระบบเกียร์ ทำให้ไม่เกิดปัญหาการหล่อลื่น ส่วนรถยนต์ที่ไม่มีระบบนี้ แค่ยกคันเร่งก็พอ ไม่ต้องถึงกับเลื่อนไปตำแหน่งเกียร์ว่างเมื่อวิ่งลงทางเนินยาวๆ แถมยังอันตรายเมื่อลงเขาด้วยเกียร์ว่างหรือเกียร์สูง ต้องระวังเลยละครับ
การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะทางการใช้งาน ช่วยยืดอายุชุดส่งกำลังราคาแพง ไม่มีเกียร์เทพลูกไหนที่ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตลอดอายุการใช้งาน การเคลมมาว่า เกียร์ลูกนี้ เป็นระบบปิด เปลี่ยนถ่ายของเหลวไม่ได้ ก็เหมือนการบอกสิ่งที่ผิดสำหรับการใช้งานเกียร์ ทำให้ลูกค้าที่ต้องใช้รถระยะยาว นานเป็นสิบปีไปเจอเข้ากับปัญหาเกียร์พังหลังหมดการรับประกันชิ้นส่วน การเคลมว่าไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ เพื่อหวังขายอะไหล่ชิ้นส่วนเกียร์ที่เสียหาย จากการที่ไม่เคยมีการเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นมากกว่า ก็ได้แต่คิดว่า เมื่อไหร่บริษัทรถยนต์จะเลิกเคลมแบบเห็นแก่ได้ซะที และที่เห็นๆ มา เกียร์จะพังเมื่อหมดการรับประกัน หรือพังเมื่อมีระยะทางเกิน 100,000 กิโลเมตร หรืออาจน้อยกว่านั้น บางคันที่พังถูกซื้อมาเป็นรถมือสอง ตอนถอดเกียร์ออกมาเปลี่ยนชิ้นส่วนหรือซ่อมแซม น้ำมันเกียร์ที่ไม่เคยเปลี่ยน จากที่มีสีแดงทับทิมกลายเป็นของเหลวข้นคลั่กคล้ายช็อกโกแลตเลยทีเดียว.